คุณหมอวีณาวัย 37 ปีได้เล่าเรื่องราวที่แสนจะซึ้งกินใจของเธอให้เราฟัง เธอไม่ได้ช่วยแค่คุณแม่ของเธอให้กลับมามองเห็นได้เท่านั้น แต่คุณหมอยังได้ช่วยคนไทยอีกหลายหมื่นคนเช่นกัน เรามาฟังเรื่องราวจากปากของคุณหมอวีณากันเลย


ผู้สื่อข่าว: สวัสดีครับคุณหมอวีณา! ช่วยเล่าเรื่องราวของคุณหมอให้เราฟังกันทีครับ

สวัสดีค่ะ เพื่อให้ผู้อ่านของคุณเข้าใจเรื่องราวได้ดีขึ้น หมอจะขอเล่าย้อนกลับไปไกลสักนิดนะคะ

หมอเกิดและโตมาในทางตอนใต้ของจังหวัดเชียงใหม่ ครอบครัวของหมอเป็นชาวนา พ่อแม่ของหมอทำงานอยู่แต่ในนา และอุทิศทั้งชีวิตของพวกท่านให้กับการปลูกข้าว ครอบครัวของเราไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่ก็ไม่ได้ขัดสนอะไรเช่นกัน


เรื่องช็อคเรื่องแรกที่เข้ามาในชีวิตของหมอคือตอนที่หมออายุ 14 จู่ๆ คุณพ่อของหมอก็เจ็บหนัก หมอกับคุณแม่รีบโทรตามรถพยาบาล แต่ก็สายไปเสียแล้ว คุณพ่อของหมอจากไปก่อนที่รถพยาบาลจะมาถึงแค่ห้านาทีเท่านั้น หมอกับคุณแม่รู้สึกเสียใจกันมาก

หมอรักคุณพ่อของหมอมากๆ พอคุณพ่อจากไป หมอก็เศร้าโศกเสียใจอยู่หลายปี หมอนอนร้องไห้ทุกคืนเลยก็ว่าได้ และแล้วหมอก็ตัดสินใจว่าจะเข้าเรียนในคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บางทีตอนนั้นถ้าหมอมีความรู้ทางการแพทย์ หมอก็อาจจะช่วยคุณพ่อเอาไว้ได้ และท่านก็คงจะยังมีชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้

ผู้สื่อข่าว: ผมขอแสดงความเสียใจเรื่องคุณพ่อด้วยนะครับคุณหมอ การสูญเสียคุณพ่อไปตอนที่ยังอายุน้อยแบบนั้นเป็นเรื่องที่สาหัสจริงๆ แต่เมื่อสักครู่คุณหมอใช้คำว่า “เรื่องช็อคเรื่องแรก” ใช่ไหมครับ? แสดงว่ามี “เรื่องช็อคเรื่องที่สอง” เหรอครับ?

ใช่แล้วค่ะ

ตั้งแต่คุณพ่อจากไป ครอบครัวของเราก็เหลือกันแค่สองคนแม่ลูก หมอสัญญากับคุณแม่เอาไว้ว่า จะไม่ทิ้งท่านไปไหน หมอจะอยู่กับท่านไปตลอดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

เราสองคนยังคงใช้ชีวิตที่สมถะและเรียบง่ายกันต่อไป คุณแม่ของหมอทำงานในนาข้าว ส่วนหมอก็ได้เข้าเรียนในคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพราะฝังใจเรื่องคุณพ่อ และจบออกมาด้วยเกียรตินิยม


หลังเรียนจบ หมอเริ่มทำงานที่โรงพยาบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่งเป็นเวลา 4 ปีในฐานะแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป จากนั้น หมอก็ได้รับการทาบทามให้ไปทำงานกับสถาบันวิจัยแห่งชาติของประเทศไทยซึ่งหมอทำงานที่นี่มามากกว่า 10 ปีแล้วค่ะ

เรื่องช็อคเรื่องที่สองเกิดขึ้นตอนที่หมออายุ 32 ปี

การมองเห็นของคุณแม่อันเป็นที่รักของหมอเริ่มแย่ลงเป็นอย่างมาก คุณหมอบอกว่า สาเหตุน่าจะมาจากงานที่คุณแม่ทำ ท่านทำงานกลางแจ้งในนาข้าวมาเป็นเวลานานหลายสิบปี การถูกแดดเป็นประจำทุกวันส่งผลให้การมองเห็นของท่านถูกทำลาย อีกอย่างหนึ่งก็คือ คุณแม่ของหมออายุ 72 ปีแล้ว ดังนั้น จึงเป็นเรื่องง่ายมากที่ท่านจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง

หลังจากผ่านไปแค่ครึ่งปี ท่านก็เกือบจะตาบอดสนิท คุณหมอพากันลงความเห็นว่า มีเพียงแค่การผ่าตัดเท่านั้นที่จะช่วยท่านได้ แต่ด้วยเหตุผลทางการแพทย์บางประการทำให้ท่านไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดได้เพราะอาจทำให้เกิดผลเสียที่ร้ายแรงยิ่งกว่าตามมา ประมาณว่าพอรักษาอย่างหนึ่ง แต่กลับทำให้อีกอย่างแย่ลง เมื่อเป็นเช่นนั้น คุณแม่ของหมอจึงไม่ได้รับการผ่าตัด และหมอก็พยายามมองหาวิธีการอื่นในการฟื้นฟูการมองเห็นของท่านมาโดยตลอด

หมอพยายามช่วยคุณแม่ในทุกๆ ทางที่สามารถทำได้ หมอรักคุณแม่สุดหัวใจ และเจ็บปวดมากที่เห็นคุณแม่ต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ วันแล้ววันเล่าผ่านไป ท่านเริ่มกลายมาเป็นเด็กที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ท่านมักจะแอบร้องไห้ในตอนกลางคืนอยู่เสมอ ยิ่งหมอได้ยินเสียงร้องไห้ของท่าน หมอก็เจ็บปวดจนแทบจะทนไม่ไหว (ร้องไห้)… หมอเสียใจจริงๆ ค่ะ

ตอนนั้นเองที่หมอตัดสินใจว่า จะต้องทำทุกอย่างทั้งที่เป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ให้คุณแม่อันเป็นที่รักกลับมามองเห็นได้ชัดเจนอีกครั้ง

เป็นอีกครั้งที่หมอรู้สึกขอบคุณในโชคชะตาที่ทำให้หมอได้เข้าเรียนในคณะแพทยศาสตร์และจบออกมาทำงานเป็นคุณหมอ เรื่องนี้ช่วยหมอได้มากจริงๆ ในการหาหนทางที่จะฟื้นฟูการมองเห็นให้คุณแม่

ห้าปีหลังจากนั้น หมอก็ใช้เวลาทั้งหมดไปกับการค้นหาและการคิดค้นสูตรที่จะช่วยรักษาโรคตารวมถึงฟื้นคืนการมองเห็นโดยไม่พึ่งการผ่าตัด เพื่อนร่วมงานของหมอไม่เชื่อว่าหมอจะทำได้สำเร็จ แถมยังรู้สึกเอือมระอาที่หมอหมกมุ่นอยู่แต่ในเรื่องนี้เพราะพวกเขาเชื่อกันว่า มีวิธีการและเทคโนโลยีอื่นๆ อีกมากมายในทางการแพทย์ที่ช่วยในเรื่องนี้ได้ หากสิ่งที่หมอคิดจะทำทำได้จริงก็คงมีคนอื่นทำได้ไปนานแล้ว ขนาดคนอื่นยังทำไม่ได้ แล้วผู้หญิงธรรมดาๆ จากประเทศไทยอย่างหมอจะไปทำสำเร็จได้ยังไงกัน

หลังจากนั้น ทั้งวงการแพทย์ก็ต้องตกตะลึง

หลังจากทำการศึกษาวิจัยอย่างจริงจังจนเข้าปีที่ห้า หมอก็ได้พบกับตำราทางการแพทย์โบราณภาษาละตินเกี่ยวกับจักษุวิทยาที่มีความยาวถึง 2,560 หน้า


หลังจากอ่านตำราเล่มนี้จนจบ หมอรู้สึกทึ่งไปกับความรู้ที่เรามีมานานกว่า 100 ปีแล้ว หมอจึงได้ไอเดียที่จะผสานความรู้เก่าเกี่ยวกับวิถีธรรมชาติในการฟื้นฟูการมองเห็นเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ของศตวรรษที่ 21

หมอเริ่มทำการวิจัยโดยใช้ความรู้จากตำราทางการแพทย์เล่มนั้นด้วยความรู้สึกฮึกเหิมและมุ่งมั่นมากกว่าเดิม หลังจากผ่านไป 2.5 เดือน หมอก็สามารถคิดค้นสูตรใหม่สำหรับโรคตาและการฟื้นฟูการมองเห็นได้สำเร็จ

ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ก็คือ ดวงตาของเราเป็นอวัยวะที่มีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังประกอบไปด้วยโครงสร้างต่างๆ จำนวนมาก ด้วยเหตุนี้เอง โรคตาจึงเป็นต้นเหตุของการมองเห็นที่ลดลง และสิ่งที่สำคัญก็คือ การคิดค้นสูตรสากลที่มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมากในเรื่องของ:

  • กระจกตา (กระจกตาขาวขุ่น การเกิดแผลเป็น)
  • เส้นประสาทตา (ต้อหิน)
  • จอประสาทตา (โรคจุดภาพชัดที่จอตาเสื่อมในผู้สูงอายุ เบาหวานขึ้นตา สายตาสั้น สายตายาว)
  • เลนส์แก้วตา (ต้อกระจก)

  • แล้วหมอก็ทำได้สำเร็จ! หมอได้เขียนรายงานความยาว 379 หน้าเกี่ยวกับวิธีการใหม่ของหมอ จากนั้นหมอก็มุ่งหน้าไปที่การประชุมจักษุวิทยาระหว่างประเทศแห่งเอเซียซึ่งจัดขึ้นที่สิงคโปร์


    หลังการกล่าวสุนทรพจน์ความยาวสามชั่วโมงของหมอจบลง ทุกคนในที่ประชุมต่างพากันปรบมือให้หมอกันอย่างกึกก้อง หมอมองเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นของนักวิทยาศาสตร์หลายร้อยคนจากทั่วเอเซียพุ่งตรงมาที่หมอด้วยความชื่นชม จากนั้นตัวแทนจากบริษัทยายักษ์ใหญ่ของเอเซียต่างก็พากันมาต่อคิวยื่นข้อเสนอในการลงทุนกับโครงการของหมอเพื่อพวกเขาที่จะได้สามารถสร้างผลิตภัณฑ์จากสูตรที่หมอคิดค้นขึ้นมาได้

    แต่หมอไม่ต้องการจะยกสูตรของหมอให้ประเทศอื่นเอาไปผลิต หมออยากจะช่วยคนชาติเดียวกันมากกว่า หมอก็เลยยอมรับข้อเสนอจากนักลงทุนเจ้าใหญ่ของไทย ทันทีที่พวกเรากลับมาถึงไทย เราก็เริ่มผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีชื่อว่า Oclarizin กันทันที

    ต้องขอบคุณการนำเสนอที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงของหมอในที่ประชุมรวมถึงหลักฐานที่แสดงถึงประสิทธิภาพของสูตรที่หมอคิดค้น หมอได้รับการอนุมัติและใบอนุญาตทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ภายในเวลาเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น ในตอนนี้ Oclarizin ได้รับการอนุญาตครบถ้วนและมีหมายเลขทะเบียนของ FDA เรียบร้อยแล้ว

    แน่นอนว่าคนแรกที่ได้ลองผลิตภัณฑ์ของหมอย่อมจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคุณแม่สุดที่รักของหมอเอง (ยิ้ม) ท่านต้องใช้ผลิตภัณฑ์นี้หลายคอร์สต่อเนื่องกัน หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์นี้ไปได้ 6 เดือน ท่านก็เริ่มกลับมามองเห็นอีกครั้ง! คุณคงนึกภาพไม่ออกหรอกว่า หมอมีความสุขมากแค่ไหนที่ได้เห็นคุณแม่ของตัวเองยังคงมีชีวิตรอดและกลับมาสดชื่นอีกครั้ง การได้เห็นท่านยิ้มและหัวเราะหลังจากผ่านเรื่องร้ายๆ มานานทำให้หมอมีความสุขมากที่สุดเลยค่ะ!


    ผู้สื่อข่าว: เป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจจริงๆ เลยครับคุณหมอ และคุณหมอเองก็คู่ควรกับการได้รับการนับถือ! คุณหมอไม่ได้ช่วยแค่คุณแม่ของตัวเองใช่ไหมครับ?

    ใช่แล้วค่ะ ตอนที่คุณแม่ของหมอกำลังรักษาตัวอยู่ พวกเราก็ได้ผลิตและขายผลิตภัณฑ์ Oclarizin ไปมากกว่า 12,000 กล่อง ในตอนนั้น ศูนย์วิจัยของเราได้รับจดหมายขอบคุณมากกว่า 2,500 ฉบับสำหรับการฟื้นฟูการมองเห็นที่เหมือนกับปาฏิหาริย์! เรายังคงได้รับจดหมายแบบนี้ทุกวัน หมอมีความสุขมากที่ไม่ได้แค่สามารถช่วยคุณแม่ของตัวเองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเพื่อนร่วมชาติอีกหลายหมื่นคนด้วย!

    สิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดกำลังจะมาถึง

    สถาบันของเราสามารถได้รับผลิตภัณฑ์ล้ำสมัยจากตะวันตกซึ่งก็คือระบบอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมอวัยวะสำหรับการมองเห็น ผมจะพยายามพูดให้เข้าใจง่ายที่สุดนะครับ เอาเป็นว่าเราได้รับหมวกที่เชื่อมต่อเข้ากับวงจรขนาดเล็กพิเศษจำนวนหลายร้อยวงจรพร้อมด้วยระบบนาโน คุณก็แค่วางหมวกดังกล่าวเอาไว้บนศีรษะของผู้ป่วย และเชื่อมต่อหมวกเข้ากับคอมพิวเตอร์ หน้าจอจะแสดงสิ่งที่ผู้ป่วยเห็น ประเด็นสำคัญก็คือ ผู้ป่วยมองเห็นสิ่งดังกล่าวได้ดีมากน้อยเพียงใด!

    นี่เป็นอุปกรณ์พิเศษ และในตอนนี้มีเพียงแค่ 9 ใบในโลก สถาบันของเราในประเทศไทยโชคดีมากที่ได้รับมาหนึ่งใบ คุณประโยชน์ของอุปกรณ์นี้คือการที่เราสามารถมองเห็นได้ว่าผู้ป่วยของเรามองเห็นอะไร ทำให้เราสามารถติดตามความก้าวหน้าของโรคได้ เป็นอุปกรณ์ที่น่าทึ่งมากๆ เลยล่ะครับ!

    ใช่ครับ เราได้ลองทดสอบ Oclarizin ดูแล้ว ผมอยากจะมาแชร์ผลลัพธ์ของผู้ป่วย 3 รายซึ่งได้รับการตรวจร่างกายโดยใช้หมวกนี้


    (รูปที่ 1 – ก่อนใช้ Oclarizin รูปที่ 2 – หลังใช้ Oclarizin)



    (รูปที่ 1 – ก่อนใช้ Oclarizin รูปที่ 2 – หลังใช้ Oclarizin)



    (รูปที่ 1 – ก่อนใช้ Oclarizin รูปที่ 2 – หลังใช้ Oclarizin)


    ผู้สื่อข่าว: น่าประหลาดใจสุดๆ ไปเลยครับ! เทคโนโลยีของเราก้าวไกลไปขนาดนี้แล้ว! ว่าแต่เราจะซื้อ Oclarizin ได้จากที่ไหนเหรอครับ?

    อันที่จริงเราวางแผนเอาไว้ว่า จะวางขายผลิตภัณฑ์ของเราในร้านขายยา แต่ร้านขายยาพวกนั้นกลับตั้งราคาสูงมากเกือบกล่องละ 3,000 บาท ราคานี้แพงเกินไปสำหรับคนไทยทั่วไป เราก็เลยตัดสินใจว่าจะขาย Oclarizin ผ่านช่องทางออนไลน์กันเอง การทำเช่นนี้ช่วยให้เราสามารถลดราคาลงมาเหลือที่ 1,980 บาทได้ หมอหวังว่าคนไทยที่มีปัญหาสายตาจะสามารถสั่งซื้อ Oclarizin กันได้นะคะ


    เรื่องราวที่น่าประทับใจเกี่ยวกับความรักอันยิ่งใหญ่ของหญิงสาววัย 37 ปีที่มีต่อคุณแม่ของเธอจนทำให้เธอสามารถช่วยให้คุณแม่กลับมามองเห็นอีกครั้งโดยไม่พึ่งการผ่าตัดได้แพร่กระจายไปทั่วประเทศไทย หลายคนไม่เชื่อว่าคุณวีณาจะทำได้สำเร็จ แต่เมื่อดูที่ตอนจบของเรื่องนี้ คุณหมอวีณาสามารถทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้เพื่อช่วยเหลือคุณแม่ของเธอ นอกจากนี้ สูตรที่คุณหมอวีณาคิดค้นขึ้นมายังได้รับการรีวิวเป็นจำนวนมากไปทั่วโลก ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูการมองเห็นนี้ได้ทำลายทุกสถิติ อีกทั้งยังมีราคาถูกกว่าผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ที่ได้รับการโปรโมทในตลาดหลายเท่า นั่นก็เป็นเพราะผลิตภัณฑ์นี้สามารถผลิตได้เองในประเทศนั่นเอง

    เราคิดว่าราคา 1,980 บาทยังคงแพงมากไปสำหรับคนไทยหลายคน เราก็เลยขอให้คุณหมอวีณาช่วยลดราคาลงมาอีกให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

    เราจะมอบส่วนลด 50% ให้แก่ Oclarizin ภายในเวลาจำกัด ราคาของผลิตภัณฑ์นี้จะเหลือแค่ 990 บาทเท่านั้น โปรโมชันนี้จะมีไปจนถึงวันที่ ระหว่างที่มีโปรโมชันนี้ คนไทยทุกคนจะสามารถซื้อ Oclarizin ได้ในราคาแค่ 990 บาทเท่านั้น หากต้องการสั่งซื้อ คุณก็แค่แจ้งชื่อและหมายเลขโทรศัพท์เอาไว้ในแบบฟอร์มที่ด้านล่าง ที่ปรึกษาของเราจะรีบติดต่อกลับไปหาคุณเพื่อบอกรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Oclarizin ให้แก่คุณ

    แบบฟอร์มการสั่งซื้อ

    หมายเลข 11982, มีผลจนถึงวันที่

    รับ Oclarizin ในราคา 990 บาท

    หากต้องการรับ Oclarizin พร้อมส่วนลด 50% ให้กรอกชื่อ และหมายเลขติดต่อของคุณในช่องว่างด้านล่าง และคลิกปุ่ม "สั่งซื้อ"

    โครงการนี้จะคงอยู่ถึงวันที่:

    * ข้อมูลของคุณส่งถึงผู้ผลิตโดยตรง ไม่มีการรั่วไหล และมีความปลอดภัย


    มีส่วนลด 50%



    ลิขสิทธิ์ © 2022 โดย Copyrightindex.com สงวนลิขสิทธิ์ ห้ามทำซ้ำ แจกจ่าย หรือส่งในรูปแบบใด ๆ หรือด้วยวิธีการใด ๆ รวมถึงการทำสำเนา บันทึก หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือเชิงกลอื่น ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้เผยแพร่ ยกเว้นในกรณีที่มีการอ้างอิงโดยย่อในรีวิวสำคัญและการใช้งานที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์อื่น ๆ ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายลิขสิทธิ์

    ผลิตภัณฑ์นี้ไม่สามารถรักษาโรค หรือป้องกันโรคได้ ข้อมูลเหล่านี้ไม่ถือว่าเป็นคำแนะนำทางการแพทย์ โปรดปรึกษาและทำตามแนะนำของแพทย์ก่อนใช้

    Terms

    100/19-20 Soi Post Office, Thaweewong Road, Tambon Patong, Amphoe Kathu, Changwat Phuket 83150